หลักสูตรบทเรียนแก้ปมค้างใจ รอบที่ 2
ซึ่งเริ่มต้นในเดือนมีนาคม
กำลังจะปิดลงแล้วครับ
เหลือการเรียนอีกครั้งเดียว หลังสงกรานต์
ในการจัดการเรียนรู้หลักสูตรนี้ทั้งสองรอบที่ผ่านมา
ผมพบว่า หนึ่งในโจทย์ที่พบบ่อย
สำหรับคนที่มีปมค้างใจจากวัยเด็ก
คือ ความสมบูรณ์แบบ
ความสมบูรณ์แบบนี้
ยังเป็นอาการหนึ่งของคนที่มีความวิตกกังวล
ที่ไม่ได้มีปมค้างใจชัดเจน
และเป็นอาการที่พบบ่อยในคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าด้วยครับ
สมัยที่ผมยังอยู่ในระหว่างการอบรมเพื่อเป็นจิตแพทย์
ระหว่างปี พ.ศ.2530-2533
อาจารย์ของผม จะสอนว่า
ความสมบูรณ์แบบ
โดยเฉพาะที่แสดงออกมาเป็นอาการย้ำคิดย้ำทำ
ถือเป็นความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคซึมเศร้า
กาลเวลาผ่านมานานหลายปี
ผมพบโจทย์เกี่ยวกับความสมบูรณ์แบบ
ที่แสดงอาการออกมาหลากหลายช่องทาง
ทั้งด้านการงาน ความสัมพันธ์ส่วนตัว สุขภาพ
และการไม่มีความสุขในชีวิต
ชื่อเรียกอืกชื่อหนึ่ง ที่คนที่มาปรึกษาผมจะใช้
คือ ความ "เป๊ะ" ครับ
ความสมบูรณ์แบบ
อาจช่วยผลักดันให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
แต่จะส่งเราไปได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
เพราะการไต่เต้าไปในสายงานในระดับที่สูงขึ้น
เราต้องการวิธีคิดและการปฏิบัติที่ยืดหยุ่น
ซึ่งคนที่สมบูรณ์แบบจะทำไม่ค่อยได้
สิ่งที่ต้องแลกมากับความสมบูรณ์แบบในบริบทของงาน
คือ ความเครียด ความเหนื่อยล้า อาการหมดไฟ
ปัญหาความสัมพันธ์ในที่ทำงาน
และการเจ็บป่วยจากความเครียด
ซึ่งมีความเจ็บป่วยได้หลายโรคเลยทีเดียว
ไลฟ์ในวันนี้
ผมจะนำเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์แบบมาคุยกัน
ในโอกาสได้เรียนรู้จากผู้เรียนมากกว่าร้อยคน
ได้พบเห็นในผู้ที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้าจำนวนมาก
จากการทำหน้าที่จิตแพทย์
และในโอกาสที่ผมกำลังจะเปิดหลักสูตร Online workshop ใหม่
"บทเรียนแก้ซึมเศร้าแบบไม่ใช้ยา"
หากเราจัดการความสมบูรณ์แบบในตัวเราได้ดีขึ้น
เราจะยืดหยุ่นขึ้น
มีความสุขได้ง่ายขึ้น
และยังช่วยเราในการจัดการกับความเครียด
จากสาเหตุต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้นอีกด้วย
ผมตั้งหัวข้อว่า
#กลไกทางจิตของความสมบูรณ์แบบ
ครับ
ท่านที่มีข้อคิด ข้อมูลแบ่งปัน
หรือมีคำถาม
ส่งเข้ามาได้ ใต้โพสต์นี้ครับ
แล้วพบกันครับ
หมอประเวช
#ความสมบูรณ์แบบ
#เป๊ะเกิน
#บทเรียนแก้ซึมเศร้าแบบไม่ใช้ยา
#บทเรียนแก้ปมค้างใจ